เจาะลึกการต่อป.โทในสาขา Data Science : บทสัมภาษณ์คุณอัษฎางค์ ขำมะโน ตำแหน่ง Data Scientist

ปัจจุบัน งานสาย Data เป็นงานที่มีการแข่งขันสูงด้วยค่าตอบแทนที่น่าสนใจและความสำคัญของเนื้องานที่มีผลท่ามกลางโลกแห่งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในทุก ๆ วัน

วันนี้ Data Café Thailand จะพามารู้จักกับการเรียนปริญญาโทในสาย Data Science กับคุณอัษฎางค์ ขำมะโน ตำแหน่ง Data Scientist ที่ Data Café Thailand เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการตัดสินใจเรียนต่อและเรียนรู้ถึงความเป็น Data Science ไปด้วยกัน

 

1. แนะนำตัวให้กับชาว Medium ได้รู้จักสักหน่อย

ผมชื่ออัษฎางค์ ขำมะโน ชื่อเล่นชื่อ ฟาฮัด ครับ ผมจบปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือที่เรียกกันว่า NIDA นั่นเองครับ ผมเรียนคณะสถิติประยุกต์ครับ สาขาวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูลครับ

 

2. ทำไมถึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทในสายนี้

ต้องย้อนพูดถึงป.ตรีสักนิดนึงครับ ป.ตรีผมเรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ แล้วผมมาสำรวจตัวเองแล้วเห็นว่า ผมเก่งทางด้าน Coding ผมก็เลยพยายามหาคณะที่จะต้องใช้คณิตศาสตร์สถิติด้วย Coding ด้วย ก็ไปเจอ Data Sci ที่ NIDA พอดี แล้วมันก็มีผลต่อการทำงานด้วย

 

3. การเรียนต่อในป. โทมีผลต่อการทำงานจริงในฐานะ Data Scientist อย่างไรบ้าง

จริง ๆ มีผลค่อนข้างมากเลยครับ เพราะในระหว่างเรียนป.โทอะครับ เราจะได้เรียนในส่วนของการวิเคราะห์ธุรกิจด้วย อย่างคาบแรกที่เข้าไปคือเรียน intro BADS ก่อนเลยกับอาจารย์เชค คือ ตอนที่ผมเข้าเรียนเนี่ยมันเป็นหลักสูตร BADS (Business Analytics and Data Science) ซึ่งตอนนี้ไม่มีหลักสูตรนี้แล้ว เหมือนตอนนี้จะเปลี่ยนเป็น MADS นะครับ ซึ่งเราจะได้เห็นมุมมองของธุรกิจว่าจะวิเคราะห์ในมุมไหนบ้าง เท่ากับว่า ถ้าเราไม่ได้เรียนมา เราจะขาดการมองในจุดนี้ไป การเรียนป.โทจึงเอามา Adapt ใช้กับการทำงานในฐานะ Data Scientist ได้ดีครับ

 

4. ข้อดีข้อเสียในการเรียนป.โท

ถ้ามองในมุมของการตัดสินใจเรียนเลย สำหรับผมแล้ว มีแต่ข้อดีเลยครับ เพราะเราจะได้ลอง Mock up ว่าธุรกิจที่เราต้องเจอมีลักษณะใดบ้าง ข้อมูลที่เรามีเหล่านี้จะจัดการยังไง จะเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นข้อมูลที่สามารถเอาไปคำนวณได้อย่างไร ส่วนนี้คือข้อดีของการเรียนเลย เพราะเราจะมีโอกาสจับข้อมูล แต่ถ้าในส่วนของข้อเสียเกี่ยวกับการเรียน ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าระยะเวลาที่เรียน 2 ปีนี้มันอาจไม่พอเท่าไหร่ โดยปีแรกจะใช้ไปกับการปูพื้นฐานของเราทั้งหมด แล้วปีที่ 2 เราจึงจะได้ลงไปถึงว่า Model ของ Data Science เป็นอย่างไรบ้าง Model แบบ Classification เป็นอย่างไรบ้าง Model แบบ Clustering เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเวลาในปีหลังที่เราเรียน Model นี้ผมคิดว่าอาจจะยังไม่พอสักเท่าไหร่ อาจจะต้องมีศึกษาเพิ่ม อีกอย่างคือผมจบป.ตรีแล้วต่อป.โทเลย มันทำให้ผมขาดมุมมองด้านธุรกิจพอสมควร คิดว่าถ้าเรามีประสบการณ์ เราจะรู้ว่าสิ่งที่เราเรียนอยู่นี้ เราอยู่ถึงส่วนไหนแล้ว ไปได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว นี่ก็คือข้อดีของคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อนแล้วค่อยเรียนป.โท

 

5. การเรียนป.โทสาย Data Science ต่างจากการเรียนคอร์สออนไลน์ของสายนี้อย่างไรบ้าง

ที่เห็นได้ชัด คือ เรื่องของเวลา บางทีอาจารย์ที่สอนในคอร์สออนไลน์อาจจะสอนได้ไม่เต็มที่ทั้งหมด อาจได้แค่พื้นฐาน เราจะไม่ได้จับว่า Model นี้ใช้อย่างไร ใช้สูตรทางคณิตศาสตร์อะไรบ้าง เราจะไม่ได้แตะเลย แต่ถ้าเรียนป.โท เราจะได้จับในส่วนนี้พอสมควร ในความคิดของผม ในคอร์สออนไลน์จะเน้นไปทาง Business เป็นส่วนใหญ่ การสอนในคอร์สออนไลน์ไม่กี่ชั่วโมงจึงไม่พอเพราะต้องใช้พื้นฐานในการเรียนค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่แล้วคอร์สออนไลน์จะสอน Data Sci ในมุมมองของ Business Analytics เพราะมันมีส่วนที่คาบเกี่ยวกันอยู่ แต่ Data Sci จะเน้นไปทาง technical มากกว่า

 

6. ในความคิดของคุณฟาฮัด สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน การเรียนป.โทสาย Data Science ยากไหม

จริง ๆ ถ้าพูดถึงเรื่องพื้นฐาน ให้คิดว่า Data Sci ประกอบไปด้วย 3 อย่าง คือ ด้านธุรกิจ ด้าน Coding แล้วก็ด้านคณิตศาสตร์ สำหรับผมในการเรียน NIDA ถ้าเรามีพื้นฐาน 2 ใน 3 อย่างนี้ก็สามารถเรียนได้ ในแต่ละด้านอาจจะไม่ต้อง Expert มาก อย่างในส่วนของ Coding ถ้าไม่มีเลย ผมว่าอาจจะไปได้ช้าหน่อย แต่ถามว่าไม่มีได้ไหม ก็ได้ เพราะในปีแรกจะมีการปูพื้นฐานอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องมีแน่นอน คือ คณิตศาสตร์ เพราะถ้าเรามีคณิตศาสตร์ เรื่อง Coding ก็เป็นเรื่องง่าย

 

7. ขอคำแนะนำให้เด็กรุ่นใหม่ที่กำลังตัดสินใจระหว่างการทำงานกับการเรียนต่อป.โท

คิดว่าเข้ามาทำงานเลยก็ดีครับ เพราะตลาด Data Sci กำลังบูมมากเลย แต่อาจจะแนะนำเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไม่มั่นใจให้ลองไปทำ Data Analytic ก่อนดู แต่ถ้าใครอยากมาเรียนป.โทสาย Data Sci ผมแนะนำให้ทำงานก่อนสัก 1 ปีเพื่อเก็บประสบการณ์กับวิธีการทำงาน อย่างเช่นเพื่อให้รู้ว่าเราควรจัดการ Data ยังไง หลังจากนั้นถ้าเรามาเรียนต่อป.โท เราจะได้อะไรอีกเยอะมากกว่ามาก ๆ เลย

 

8. ทำไมถึงเลือกทำงานกับ Data Café Thailand

ผมรู้จัก Data Café มาจากอาจารย์เชค 555 จริง ๆ Data Café ก็เป็นบริษัทขนาดเล็กแต่ดีตรงที่เป็นบริษัทที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผมเพราะผมไม่เคยทำงานมาก่อน แล้ว Data Café มีทั้งงานในส่วน Education กับ Project สำหรับคนไม่มีประสบการณ์ ผมคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ เพราะการที่เราเข้ามาแล้ว เราได้ทำงานในทั้งสองส่วน เราจะมีโอกาสได้จับงานส่วน Education ที่จะได้ไปสอนบริษัทอื่น ๆ เราจึงมีโอกาสได้เรียนรู้งานตรงนี้ แล้วมีธุรกิจที่มาเรียนกับ Data Café ในหลากหลายรูปแบบ เราจึงเก็บเกี่ยวจากตรงนี้ได้เยอะแล้วก็ได้จับ Data ที่หลากหลาย ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ดีมาก เพราะเราจะได้รู้ว่า เราต้องใช้อะไรวิเคราะห์หรือถ้าเจอธุรกิจนี้ ควรวิเคราะห์ทางใดก่อน ส่วนในด้าน Project เราจะได้จับ Data จริง ๆ คือ เรารับงานจากลูกค้าที่มี Data จริง สร้างความท้าทายให้กับผมพอสมควรเลย

 

– – – – – –

ติดตามข่าวสารทั้งด้านการทำงานและเทคโนโลยีอื่น ๆ จาก Data Cafe Thailand ได้ที่:
Website: https://datacafethailand.com
LinkedIn: https://th.linkedin.com/company/data-cafe-company-limited
Facebook: https://m.facebook.com/datacafethailand/
Medium: https://medium.com/data-cafe-thailand

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *